ดูดไขมัน ใครที่อยากดูดไขมัน อยากหุ่นดีทางลัด หมอขอชวนมาทำความเข้าใจว่า “ดูดไขมันคืออะไร” การดูดไขมัน หรือ เป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินตามจุดต่าง ๆ เช่น การดูดไขมันหน้าท้อง การดูดไขมันต้นแขน การดูดไขมันต้นขา เป็นต้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจดูดไขมันต้องเช็กเรื่องอะไรบ้าง ต้องดูเรื่องไหน เลือกคลินิกดูดไขมันที่ไหนดีขอพาทุกคนไปไขข้อสงสัยในเรื่องของการดูดไขมันให้กระจ่างในทุกประเด็นยิ่งขึ้นกัน
ดูดไขมัน (liposuction) เป็นหัตถการด้าน
ศัลยกรรมตกแต่ง ความงามที่ทำบ่อยเป็นอันดับต้นๆ
และมีรายงานพบอันตรายจากการทำหัตถการนี้เป็นระยะๆ แต่ก็ยังมีผู้รับบริการจำนวนมากที่ต้องการจะทำหัตกการนี้เพื่อกระชับสัดส่วนเพิ่มความั่นใจในการใส่เสื้อผ้า หรือทำร่วมกับหัตถการอื่นความรู้ในการเลือกที่จะดูดไขมันอย่างไรให้ปลอดภัยจึงจำเป็นที่ผู้ที่ต้องการดูดไขมันควรจะทราบก่อนจะตัดสินใจในการรับการผ่าตัดการดูดไขมัน (Liposuction) คือการลดไขมันหรือกำจัดไขมันในบริเวณที่ลดยากและไม่สามารถเอาออกได้ด้วยวิธีการลดน้ำหนัก โดยใช้เครื่องมือทางการแพทย์มาเป็นขั้นตอนหลักของกระบวนการดูดไขมันออกจากร่างกาย ทั้งยังเป็นทางลัดในการลดไขมัน กระชับสัดส่วน และสร้างหุ่นสวยได้ในเวลาเร่งด่วน เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใส่เสื้อผ้าและส่งเสริมบุคลิกภาพที่ดีขึ้น เช่น คนที่มีหุ่นตรงหรือหุ่นทรงกระบอก เมื่อดูดไขมันเอวเพื่อปรับรูปร่างแล้ว ทำให้ดูมีเอวเอส เอวคอดขึ้น รวมถึงลดห่วงยางรอบเอวและเอวปลิ้นได้ เป็นต้น
รู้จักการดูดไขมัน
การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นการใช้เครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายท่อยาวใส่เข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อดูดไขมันส่วนเกินออกมาจากบริเวณต่าง ๆ ได้แก่ หน้าท้อง สะโพก ต้นขา ต้นแขน คอ ก้น เป็นต้น ทำให้ลดจำนวนไขมันบริเวณส่วนต่าง ๆ ที่สะสมเฉพาะที่ลงได้ แต่การดูดไขมันไม่สามารถแก้ปัญหาผิวเปลือกส้มจากเซลลูไลท์ได้ และสิ่งที่ต้องรู้คือการดูดไขมันไม่สามารถดูดปริมาณมาก ๆ ในครั้งเดียวกัน เพราะอาจมีความเสี่ยงในการเสียเลือดมาก ซึ่งศัลยแพทย์จะให้การรักษาและคำแนะนำอย่างใกล้ชิด
ประวัติการดูดไขมัน
การดูดไขมัน เริ่มต้นมาตั้งแต่ ปี 1960 ตั้งแต่ที่เทคนิคการดูดยังไม่ดีเท่าในปัจจุบัน มีทั้งผลข้างเคียงมาก และมีเลือดออกมาก โดยเริ่มตั้งแต่การใช้ที่ขูดไขมันออก(Curettage) พัฒนามาเป็นการใช้เครื่องดูดสูญญากาศช่วยในการดูดผ่าน แท่งดูดหัวมน ดูดไขมัน (Blunt cannulas with suction assisted) ซึ่งในการดูดไขมันด้วยวิธีนี้ ไขมันจะมีลักษณะเป็นก้อนแข็ง การดูดจึงมักทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อต่าง ๆ ค่อนข้างมาก และพบผลข้างเคียงมาก เช่นปัญหาเลือดออกมาก ทำให้การดูดไขมันจึงยังเป็นการผ่าตัดที่มีความเสี่ยง
ในปี 1990 หลังจากการพัฒนาเทคนิคการดูด มาตลอด 30 ปี ได้เริ่มมีการนำ คลื่น ultrasound มาสลายไขมันให้กลายเป็นของเหลวก่อนที่จะดูด ซึ่งวิธีนี้เองที่ได้พัฒนาต่อมาเรื่อย ๆ จนทำให้การดูดไขมันในปัจจุบัน ทำได้ง่าย ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ นอกจากนี้ในปัจจุบัน ยังได้มีการนำไขมันที่ดูดได้ มาเป็นสารเติมเต็มในตำแหน่งต่าง ๆ เช่น ใบหน้า เพื่อทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ได้อีกด้วย
- การดูดไขมันจึงเป็นวิธีการที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินที่ลดเท่าไหร่ ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ออกจากร่างกาย เพื่อช่วยให้มีรูปร่างที่ดี สมส่วน ได้อย่างชัดเจนและรวดเร็วเครื่องเวเซอร์ (Vaser Liposuction) จะทำลายไขมันส่วนเกินที่สะสมจับตัวกันเป็นก้อน โดยไม่ทำลายหรือทำให้เกิดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว
- การดูดไขมันด้วยเครื่องเวเซอร์ จะได้ผลดีมากในผู้ที่มีความยืดหยุ่นของผิวหนังดี ผิวหนังจะไม่หย่อนคล้อยหลังทำด้วยหลายปัจจัยในสังคมที่รีบเร่ง ปัจจุบันพบว่ามีคนจำนวนมาก ที่พบปัญหาเรื่องรูปร่างไม่สมส่วน มีไขมันส่วนเกินสะสม ต้นแขนต้นขาใหญ่ หรือหน้าท้องหนา ไม่มีเอว ขาดความมั่นใจในการแต่งกาย
ไขมันส่วนเกินที่สะสมเฉพาะส่วนของร่างกาย (Double Fat) บางครั้งการควบคุมอาหารหรือการออกกำลังกายก็ไม่สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินดังกล่าวออกไปได้หรืออาจจะต้องใช้ระยะเวลานานในการที่จะควบคุมหรือลดน้ำหนักเพื่อให้เกิดการสลายหรือดึงไขมันที่สะสมออกมาใช้และทำให้รูปร่างดีขึ้นการดูดไขมันจึงเป็นวิธีการที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินที่ลดเท่าไหร่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ออกจากร่างกาย เพื่อช่วยให้มีรูปร่างที่ดี สมส่วน ได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการดูดไขมันที่ได้รับความนิยมมาก ในโรงพยาบาลชั้นนำ
เรื่องควรรู้ก่อน “ดูดไขมัน”
การมีไขมันส่วนเกินตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เป็นสิ่งที่ไม่เป็นที่พึงปรารถนาของผู้ใด ดังนั้นจึงมีการคิดค้นวิธีที่จะต่อสู้กับร่างกายเพื่อลดสัดส่วนลง และวิธีการต่าง ๆ ดังเช่น การออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร และการนวดเพื่อลดสัดส่วนได้มีการกระทำต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลานานเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ในปัจจุบันการดูดไขมันได้กลายมาเป็นทางเลือกใหม่ในการขจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะส่วนได้อย่าง
การ ดูดไขมัน ดีไหม
การดูดไขมัน (Liposuction) คือ การนำไขมันส่วนเกินที่เราไม่ต้องการออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นจุดที่ลดไขมันได้ยากแม้ว่าจะควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้วก็ตาม สามารถทำได้หลายส่วนในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง รอบเอว สะโพก ต้นขา ต้นแขน น่อง และปีกหลัง หรือในจุดที่ไม่สามารถใช้การลดน้ำหนักช่วยได้
ช่วยแก้ไขปัญหาสำหรับคนที่มีไขมันส่วนเกิน ต้องการลดสัดส่วนเฉพาะจุด ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะเป็นการสลายไขมันส่วนเกินที่มีอยู่ในร่างกายบริเวณจุดต่าง ๆ ออกไปทำให้รูปร่างมีสัดส่วนมากขึ้นการดูดไขมัน (Liposuction) เป็นการใช้เครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายท่อขนาดห 3-6 มิลลิเมตร สอดผ่านแผลขนาดเล็กเข้าใต้ผิวหนังเพื่อดูดไขมันส่วนที่ไม่ต้องการออกการดูดไขมันไม่ใช่วิธีลดความอ้วนแต่สามารถกำจัดไขมันเฉพาะส่วนได้ดี ผู้ที่จะรับการผ่าตัดดูดไขมันควรจะมีสุขภาพแข็งแรงดี มีผิวหนังที่มีความยืดยุ่นดี และมีความคาดหวังที่เป็นปกติ (realistic expectation)
- การผ่าตัดการดูดไขมันในปัจจุบันมีเทคนิคที่ทำให้มีการเสียเลือดน้อยมากโดยที่ถ้าไขมันและน้ำ ที่ถูกดูดออกมามีปริมาณไม่เกิน 6,000 มิลลิลิตร ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับเลือดการผ่าตัดอาจจะทำโดยการดมยาสลบหรือการฉีดยาชาเฉพาะที่ก็ได้ขึ้นอย่กับปริมาณและบริเวณที่จะที่การดูดไขมันก่อนที่การผ่าตัดแพทย์จะทำการวาดตำแหน่งที่มีความต้องการดูดไขมันเสียก่อนที่จะวางยาสลบหรือฉีดยาชาหลังจากนั้นจะทำการเจาะแผลขนาดเล็กที่ผิวหนังขนาดเท่ากับขนาดของท่อที่จะทำการดูดไขมันอย่างน้อยตำแหน่งละสองรูเพื่อให้การดูดไขมัน ดูดไขมัน ทั้งตัว ราคา เป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ในบริเวณที่อยู่ใกล้เคียงกัน ดูดไขมัน อาจจะใช้รูแผลร่วมกันได้หลังผ่าตัดแพทย์จะสวมผ้ายืดหรือพันผ้าไว้ประมาณสองเดือน บริเวณที่ทำการดูดไขมันอาจจะมีรอยเขียวช้ำได้ซึ่งจะหายไปเองภายในระยะเวลาประมาณสองสัปดาห์
แม้การดูดไขมันจะทำให้มีสัดส่วนที่เล็กลง และมีรูปร่างที่ผอมลง แต่ก็ไม่ใช่การลดน้ำหนักอย่างที่หลาย ๆ คนคิดนะครับ facebook การดูดไขมันในปัจจุบันมีความเสี่ยง และมีความอันตรายน้อยมาก หากเราเลือกคลินิกดูดไขมันที่ได้มาตรฐาน มีห้องผ่าตัดที่ปลอดเชื้อ และมีวิสัญญีแพทย์ คอยเฝ้าระวังอาการอย่างต่อเนื่อง (สำหรับการดูดไขมันแบบวางยาสลบ) สำหรับใครที่อยากรู้วิธีเลือกคลินิกแบบปลอดภัยได้มาตรฐาน
good candidate (ผู้ที่เหมาะสมกับการดูดไขมัน )
การดูดไขมัน เป็นหัตถการในการกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะส่วน ไม่ใช่หัตถการที่ใช้ในการลดน้ำหนักเนื่องจากไขมันมีน้ำหนักเบา ส่วนใหญ่แม้จะดูดไขมันออกไปหลายลิตรแต่น้ำหนักก็ลดไม่มาก
ผู้ที่เหมาะกับการดูดไขมัน
- เป็นผู้ที่มีน้ำหนักในเกณฑ์ปกติ (normal BMI or within 30% of ideal body weight) และมีไขมันส่วนเกินเฉพาะส่วน โดยไม่สามารถลดได้หลังจากการการออกกำลังกายและคุมอาหาร โดยหลังจากลดน้ำหนักควรมีน้ำหนักที่คงที่ประมาณ 6 เดือน ดูดไขมัน ถ้าน้ำหนักไม่คงที่อาจจะมีไขมันกลับมาสะสมใหม่
- มีคุณภาพความยืดหยุ่นของผิวหนังที่ดี ผิวหนังที่หนาจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าบริเวณที่บาง แตกลายและหย่อนคล้อย การดูดไขมันไม่สามารถรับประกันการแก้ไขภาวะ เชลลูไลท์
- ผู้ที่มีสุขภาพดีไม่มีโรคประจำตัว ไม่สูบบุหรี่ หรือ ดื่มแอลกอฮอล์ ถ้าทานอาหารเสริม วิตะมินควรหยุดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ผู้ที่ต้องการจะดูุดไขมันควรจะได้รับทราบข้อมูลรวมถึงเข้าใจผลที่จะได้รับและความเสียงจากการผ่าตัดจากศัลยแพทย์ก่อนการผ่าตัด
การดูดไขมันมีวิธีไหนบ้าง
วิธีการดูดไขมันจะใช้เทคโนโลยีของเครื่องมือแพทย์มาเป็นเกณฑ์ในการนับ เช่น พลังงานคลื่นวิทยุ BodyTite Pro, พลังงานคลื่นเสียง Vaser Smooth, พลังงานน้ำ Body-jet, พลังงานสั่นสะเทือน PAL และพลังงานผสม looksclinic J Plasma เป็นต้น ซึ่งแต่ละสถานที่ให้บริการจะเลือกใช้เทคโนโลยีไม่เหมือนกัน โดยเลือกใช้จากความชำนาญและวิจารณญาณของแพทย์ผู้รักษาว่าเทคโนโลยีใดดีที่สุดในปัจจุบัน รวมถึงมีความสอดคล้องกับเทคนิคการรักษาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแพทย์ด้วย
ผ่าตัดดูดไขมัน
ในการผ่าตัดดูดไขมันศัลยแพทย์จะทำเครื่องหมายบนร่างกายในตำแหน่งที่ต้องการดูดไขมันออก หลังจากนั้นจึงทำการเจาะรอยเล็กบริเวณผิวหนัง ขนาดประมาณ 0.5 – 1 เซนติเมตร แล้วใส่ท่อเรียวยาวขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ดูดไขมัน ราคา 2 – 5 มิลลิเมตรที่จะดูดไขมันเข้าไป ซึ่งท่อนี้จะต่อกับเครื่องปั๊มสุญญากาศหรือเครื่องอัลตราซาวนด์ โดยปริมาณไขมันที่ออกมาจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับตำแหน่งและปริมาณไขมันที่สะสม อาจจะเสียเลือดบ้างเล็กน้อย หลังผ่าตัดศัลยแพทย์จะใช้ผ้าพันหรือผ้ารัดบริเวณที่ดูดไขมัน
ความนิยมของการดูดไขมัน
ตำแหน่งของการดูดไขมัน ที่นิยมได้แก่ ต้นแขน หน้าท้อง และต้นขา ในผู้หญิง สำหรับในผู้ชายจะนิยมดูดบริเวณ หน้าอก หน้าท้อง และเอวมีการสำรวจของ American Society for Aesthetic Plastic Surgery ในปี 2011 ว่า การดูดไขมัน เป็นการทำศัลยกรรมตกแต่งที่นิยมมากที่สุด โดยในปี 2006 มีถึง 403,684 คน และในปี 2011 มีถึง 1,268287 คน
เทคนิค ขั้นตอนของการดูดไขมัน คลินิค
ปัจจุบันเทคนิคของการดูดไขมันของศัลยแพทย์ รวมถึงของคลินิคนั้น จะใช้เป็น Ultrasound – assisted liposuction รีวิว ดูดไขมัน นั่นคือ การใช้คลื่นอัลตราซาวด์ ในการสลายไขมันก่อนที่จะทำการดูด ซึ่งขึ้นตอนในการดูดไขมันของอิสสวีร์คลินิคจะมีดังนี้
ทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และประเมินบริเวณที่ต้องการรักษา โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนการรักษา รวมถึงการประเมินว่าบริเวณที่ผู้ป่วยกังวลนั้น เหมาะสมต่อการรักษาด้วยวิธีการดูดไขมันหรือไม่ทำความเข้าใจ และเตรียมความพร้อมสำหรับการผ่าตัด เช่น การตรวจเลือด การหยุดยาบางชนิด เป็นต้น
ในวันผ่าตัด แพทย์จะทำการตรวจประเมินร่างกายถึงความพร้อมอีกครั้ง ในการระงับความเจ็บปวดนั้น วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือ การฉีดยาชาเฉพาะที่ หรือ local anesthesia (แต่ในคนไข้ที่มีความกลัวมากกว่าปกติ ควรจะเลือกใช้วิธีดมยาสลบ หรือ General anesthesia ซึ่งควรทำในโรงพยาบาลเท่านั้น เนื่องจากมีความเสี่ยงมากกว่า)
เตรียมตัวก่อนดูดไขมันอย่างไรให้ปลอดภัย
ควรเลือกปรึกษาศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการทำหัตถการดูดไขมัน และเลือกสถานพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ มีเครื่องดูดไขมันที่ทันสมัย ทีมแพทย์ พยาบาล ที่มีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยให้มีความปลอดภัยทั้งระหว่างการทำหัตถการและระยะพักฟื้นหลังการผ่าตัด
ต้องประเมินก่อนว่า เหมาะสมและจำเป็นที่จะต้องดูดไขมันหรือไม่? ผู้ที่สนใจในการดูดไขมัน ควรปรึกษาศัลยแพทย์ตกแต่งเพื่อประเมินและตรวจร่างกายก่อน เพราะ Vaser Liposuction เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินสะสมมาก ลดน้ำหนักด้วยการคุมอาหารและออกกำลังกายมานานแล้วยังไม่ได้ผล การดูดไขมันด้วยวิธีนี้จะได้ผลดีมากในผู้ที่มีความยืดหยุ่นของผิวหนังดี ผิวหนังจึงไม่หย่อนคล้อยหลังทำ ต้องได้รับการตรวจร่างกายให้เหมาะสมก่อนการทำ ดูดไขมัน เพื่อให้มั่นใจว่ามีสุขภาพแข็งแรง มีความปลอดภัยที่จะทำการดูดไขมัน โดยมาตรฐานการตรวจร่างกายทั่วไปประกอบด้วย การตรวจเลือด ตรวจเอกซเรย์ปอด (Chest x-ray) ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) และผู้ที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไปหรือมีโรคประจำตัว ก็ควรได้รับกา
การดูดไขมัน ช่วยอะไรได้บ้าง
การดูดไขมัน สามารถช่วยแก้ปัญหาไขมันส่วนเกินได้อย่างตรงจุดเลยครับ! เพราะการดูดไขมัน อาทิ การดูดไขมันหน้าท้อง, ดูดไขมันเหนียง, ดูดไขมันต้นแขน, ดูดไขมันเอวเอส และ การดูดไขมันต้นขา เป็นวิธีที่จะช่วยกำจัดส่วนเกิน ที่สะสมอยู่ที่ใต้ชั้นผิวหนังออกมาและทำให้สัดส่วนเล็กลง ดูดไขมัน ต้นขา ในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น โดยการอาศัยเครื่องดูดไขมันต่าง ๆ เข้าช่วยในการสลายไขมัน ซึ่งเราสามารถดูดไขมันยาชาก็ได้ หรือจะดูดไขมันวางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์ก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้ แพทย์จะเป็นผู้แนะนำตามความเหมาะสมของแต่ละเคสครับ
เพราะการดูดไขมัน (อาทิ การดูดไขมันหน้าท้อง, ดูดไขมันเหนียง, ดูดไขมันต้นแขน, ดูดไขมันเอวเอส หรือ ดูดไขมันต้นขา เป็นต้น) จะช่วยกำจัดส่วนเกิน ที่สะสมอยู่ที่ใต้ชั้นผิวหนังออกมา และทำให้สัดส่วนเล็กลง ในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น โดยการอาศัยเครื่องดูดไขมันต่าง ๆ เข้าช่วยในการสลายไขมัน ซึ่งเราสามารถดูดไขมันยาชาก็ได้ หรือจะดูดไขมันวางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์ก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้ แพทย์จะเป็นผู้แนะนำตามความเหมาะสมของแต่ละเคสครับ
ความเสี่ยง และภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบจากการดูดไขมัน
- เลือดคั่ง เสียเลือดมาก
- ภาวะเสียสารน้ำ หรือความผิดปกติของเกลือแร่
- บวม ช้ำ น้ำเหลืองคั่ง
- ติดเชื้อบริเวณที่ผ่าตัด
- อาการชา หรือ แสบร้อนที่ผิวหนังมากกว่าปกติ
- แผลเป็น, ผิวหนังเป็นคลื่น ลอน ไม่เรียบ จากการดูดไขมันน้อย หรือมากไป หรือเกิดจากคุณภาพของผิวหนังที่ขาดความยืดหยุ่น
- การบาดเจ็บต่ออวัยวะข้างเคียง เช่น กล้ามเนื้อ ผนังหน้าท้อง เส้นประสาท เป็นต้น
- ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน (deep vein thrombosis , pulmonary emboli)หรือ ดูดไขมันที่ไหนดี ไขมันอุดตันในเส้นเลือด (fat emboli) เป็นภาวะที่พบได้น้อยแต่สามารถเป็นอันตรายแก่ชีวิต
- แพ้ยาชา หรือ พิษจากยาชาหรือยาสลบที่ เกินขนาด โดยมักเกิดในกรณีที่ดูดไขมันในคลินิกที่ไม่มีการเฝ้าระวังสัณญาณชีพขณะผ่าตัด
เราสามารถดูดไขมันได้ทุกส่วนของร่างกาย ดูดไขมันทั้งตัว ราคา โดยเฉพาะในบริเวณที่มีไขมันส่วนเกินเยอะ หรือบริเวณที่ต้องการลดไขมันพร้อมกระชับรูปร่างให้สมส่วนกัน จากประสบการณ์ในการดูแลคนไข้มานาน พบว่าตำแหน่งดูดไขมันที่นิยมมากทั้งในผู้หญิงและผู้ชายคือ ดูดไขมันหน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน และดูดไขมันเอว เพราะเป็นจุดที่ไขมันสะสมง่ายแต่ลดยากที่สุด
นอกจากนี้ การดูดไขมันเพื่อปรับรูปร่างให้สวยงาม ก็ยังนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น การดูดไขมันสร้างร่อง 11 สำหรับผู้หญิงที่อยากมีหน้าท้องเรียบแบน มีไลน์กล้ามเนื้อที่สวยงามดูสุขภาพดี การดูดไขมันสร้างซิกแพค สำหรับหน้าท้องผู้ชายที่ดูสุขภาพดี และเพื่อการรักษาโรคอย่างดูดไขมันหนอกคอที่มีสาเหตุจากการกินยาบางชนิด รวมถึงดูดไขมันนมน้อย (ไขมันใต้รักแร้) ที่ปลิ้นออกมาจนทำให้หมดความมั่นใจ เป็นต้น
ดูแลหลังดูดไขมัน
หลังผ่าตัดภายใน 24 – 48 ชั่วโมง จะรู้สึกปวดแสบร้อน บวม และมีรอยเขียวช้ำ ดูดไขมัน ที่ผิวหนังบริเวณผ่าตัด ซึ่งแพทย์จะให้รับประทานยาบรรเทาอาการปวดและประคบเย็นหลังผ่าตัด รวมถึงใส่ชุดรัดรูปเพื่อการกระชับ (Pressure Garment)ประมาณ 1 เดือน ควรใช้ผ้ายืดพันรัดหรือชุดรัดรูปเพื่อการกระชับในบริเวณที่ทำการรักษา เพื่อช่วยกระชับกล้ามเนื้อและลดอาการบวม โดยอาการบวมจะดีขึ้นภายใน 1 เดือน และผิวหนังบริเวณที่ดูดไขมันลักษณะเป็นลูกคลื่นจะยุบเข้าที่ประมาณ 3 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการรักษาของแพทย์และคำแนะนำในการใช้ผ้ายืดพันรัดหรือชุดซัพพอร์ต
ประมาณวันที่ 3 หลังผ่าตัด หากแผลแห้งดี ไม่มีอาการปวด บวม แดง ร้อนที่แผล สามารถอาบน้ำได้ โดยต้องซับแผลให้แห้ง ทาแป้งได้ในบริเวณที่รู้สึกคัน แต่ห้ามทาที่บริเวณแผล
แพทย์จะนัดตัดไหมเมื่อครบประมาณ 1 สัปดาห์ ห้ามทายาป้องกันการเกิดแผลเป็นนูน แต่ใช้ถูนวดเบา ๆ ที่ฟกช้ำได้หลังการรักษา 1 เดือน ควรงดออกกำลังกายในระยะยาวจำเป็นต้องควบคุมอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอ มิเช่นนั้นรูปร่างจะกลับไปผิดสัดส่วนเช่นเดิม
การดูแลร่างกายหลังทำการดูดไขมัน
นอกจากการเตรียมความพร้อมก่อนการดูดไขมันที่เหมาะสมแล้ว การดูแลหลังทำหัตถการที่ถูกต้องจะช่วยให้ฟื้นตัวเร็ว ดูดไขมัน ที่ไหน ดี ซึ่งผู้ที่ได้รับการดูดไขมันควรพักผ่อนให้เพียงพอหลังการดูดไขมันในช่วง 3-5 วันแรก หลีกเลี่ยงการยกของหนักอย่างน้อย 2 สัปดาห์แรก งดออกกำลังกายอย่างน้อย 1 เดือน และควรจะสวมชุดซัพพอร์ตหรือพันผ้ายืดบริเวณที่ดูดไขมัน (Compression Garment) ในช่วง 6 สัปดาห์แรก เพื่อช่วยลดอาการบวม ช่วยให้ผิวหนังกระชับและเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างที่สมส่วน เห็นส่วนเว้าโค้งได้ชัดเจนเร็วยิ่งขึ้น
ส่วนใดของร่างกายที่สามารถดูดไขมันได้ บริเวณที่มีการทำศัลยกรรมดูดไขมัน และทำได้ผลดี คือ คาง คอ แก้ม สะโพก หน้าท้อง เอว เข่า ต้นขา และแขน รวมไปถึงเต้านมของผู้ชายที่มีขนาดใหญ่ผิดปกติ เป็นต้นคนทั่วไปดูดไขมันได้ผลดีหรือไม่ การผ่าตัดในหญิงชายซึ่งมีสุขภาพดี และอายุยังน้อย มักได้ผลดีกว่าในผู้ที่มีอายุมากเนื่องจากสภาพผิวหนังมีความยืดหยุ่น (Elasticity) มากกว่า เมื่อผ่านการดูดไขมันแล้ว ผิวสามารถกลับสู่สภาพเดิม และคงความกระชัย ไม่หย่อนคล้อย ซึ่งในปัจจุบันได้มีการพัฒนาวีการใหม่ ๆ ซึ่งสามารถใช้ได้ผลดีกับทุกเพศทุกวัยที่มีสุขภาพแข็งแรง
การดูดไขมัน อันตรายไหม
การดูดไขมันนับเป็นศัลยกรรมประเภทหนึ่งที่มีความอันตรายถ้าไม่ได้ดำเนินการด้วย ดูดไขมัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะการดูดไขมันมีความจำเป็นที่ต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัด ไม่สามารถทำเองได้ด้วยตัวเองหรือให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่แพทย์ทำหัตถการ เพราะการดูดไขมันต้องทำร่วมกันกับการผ่าตัด ต้องอาศัยความรู้เฉพาะทางและต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น
โดยการดูดไขมันแต่ละวิธีอาจมีการฉีดยาชา วางยาสลบ ดูดไขมัน ที่ไหนดี หรือใช้เครื่องมือและสารละลายเป็นตัวช่วย ผู้ใช้บริการบางรายอาจมีอาการบวม-ช้ำ หรือชาทั่วร่างกายเป็นเวลานาน หรือเกิดถุงใต้ชั้นผิวหนังจากการสะสมของของเหลว หน้าท้องเป็นก้อนไม่สม่ำเสมอร้ายแรงที่สุดคือปอดบวดน้ำและหัวใจล้มเหลวกะทันหัน เพราะได้รับสารละลายหรือยาสลบติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป แต่เราสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายนี้ได้ด้วยการการศึกษาหาสถานที่ดูดไขมันที่ได้รับมาตรฐานรับรอง มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูดไขมันโดยเฉพาะ พร้อมบริการด้วยเครื่องมือและนวัตกรรมทันสมัย จะช่วงลดความเสี่ยงได้